ประเพณีการทอดกฐิน
การทอดกฐิน จะเกิดขึ้นหลังจากวันออกพรรษาเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือจำง่ายๆ ได้ว่าตั้งแต่ช่วงเทศกาลตักบาตรเทโวโรหณะถึงช่วงเทศกาลลอยกระทง ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า " เทศกาลกฐิน "
ประวัติความเป็นมา
ความหมายของคำว่ากฐิน
มีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน 4 ประการ ดังนี้
ประวัติความเป็นมา
มีตำนานเล่าว่าในครั้งพุทธกาล
ครั้งหนึ่งภิกษุชาวเมืองปาฐาประมาณ
๓๐ รูป ถือธุงดงควัตรอย่างยิ่งยวด
มีความ
ประสงค์จะเฝ้าพระพุทธเจ้าซึ่งขณะนั้นประทับอยู่กรุงสาวัตถี
จึงพากันเดินทางไป
พอไปถึงเมืองสาเกตก็เป็นวันเข้าพรรษาพอดี
จึงต้องจำพรรษาอยู่ที่นั่นตามพระวินัย
ครั้นออกพรรษาปวารณาแล้วก็รีบเดินทางไปเฝ้า
ระหว่างทางฝนตก หนทางเป็นโคลนตม
ต้องบุกลุยไปจนถึงกรุงสาวัตถีได้รับความลำบากมาก
ครั้งได้เฝ้าฯ
พระพุทธองค์ทรงมีปฏิสันถารถึงเรื่องจำพรรษาและการเดินทาง
ภิกษุเหล่านั้นก็ได้ทูลถึงความตั้งใจที่จะมาเฝ้า
และความยากลำบากในการเดินทางให้ทรงทราบ
พระพุทธเจ้าจึงทรงมีพระพุทธานุญาตให้พระภิกษุผู้จำพรรษาครบถ้วนแล้วกรานกฐินได้
และจะได้รับอานิสงส์จากพระวินัยบางข้อ
(
กรานกฐิน
เป็นพิธีฝ่ายภิกษุที่ได้รับมอบผ้ากฐิน
แล้วนำผ้าที่ได้ไปตัดเย็บย้อมทำเป็นจีวรผืนใดผืนหนึ่ง
)
ความหมายของคำว่ากฐิน
มีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน 4 ประการ ดังนี้
1.
เป็นชื่อของกรอบไม้
อันเป็นแม่แบบสำหรับทำจีวรที่อาจเรียกว่า
" สะดึง "
เนื่องจากสมัยพุทธกาลการทำจีวรให้มีลักษณะตามกำหนดกระทำได้โดยยาก
จึงต้องทำกรอบไม้สำเร็จรูปไว้ให้เป็นอุปกรณ์ในการทำผ้านุ่ง
/ ผ้าห่ม /
ผ้าห่มซ้อนที่รวมเรียกว่า
จีวร ผืนใดผืนหนึ่งก็ได้ (
ผ้านุ่งพระ เรียกสบง /
ผ้าห่ม เรียกจีวร /
ผ้าห่มซ้อน เรียกสังฆาฎิ
)
โดยพระสงฆ์จะช่วยกันทำโดยอาศัยแม่แบบนี้
เมื่อทำเสร็จและพ้นกำหนดกาลแล้วก็จะรื้อไม้แม่แบบเก็บไว้ใช้ในปีต่อ
ๆ ไป การรื้อไม้แม่แบบเพื่อเก็บไว้ใช้ในโอกาสหน้านี้เรียกว่า
" เดาะ "
หรือ "
กฐินเดาะ "
( เดาะกฐินก็เรียก )
2.
เป็นชื่อของผ้า
ที่ถวายแก่สงฆ์เพื่อทำจีวรตามแบบหรือกรอบไม้นั้น
และต้องถวายตามกำหนดเวลา
1 เดือนดังกล่าว ซึ่งผ้านี้จะเป็นผ้าใหม่
ผ้าเก่าฟอกสะอาดหรือผ้าบังสุกุล
( ผ้าที่เขาทิ้งแล้ว
) ก็ได้
ผู้ถวายจะเป็นคฤหัสถ์หรือภิกษุสามเณรก็ได้
ถวายแก่สงฆ์แล้วเป็นอันใช้ได้
3 .
เป็นชื่อของบุญกิริยา
คือ การทำบุญถวายผ้ากฐินเพื่อให้สงฆ์ทำเป็นจีวร
ซึ่งต้องเป็นพระสงฆ์ผู้จำพรรษาอยู่ในวัดใดวัดหนึ่งครบ
3 เดือน ทั้งนี้
เพื่อสงเคราะห์ผู้ประพฤติชอบให้มีผ้านุ่งหรือผ้าใหม่ผลัดเปลี่ยนของเก่าที่จะขาดหรือชำรุด
การทำบุญถวายผ้ากฐินหรือที่เรียกกันติดปากว่า
" ทอดกฐิน
"
ก็คือการทอดหรือวางผ้าลงไปแล้วกล่าวคำถวายในท่ามกลางสงฆ์
และต้องทำในเวลาที่กำหนด
1 เดือนที่ว่า
ถ้าทำก่อนหรือหลังไม่ถือว่าเป็นกฐิน
4 .
เป็นชื่อของสังฆกรรม คือ
กิจกรรมของสงฆ์ที่จะต้องมีการสวดประกาศขอรับความเห็นชอบจากที่ประชุมสงฆ์ในการมอบผ้ากฐินให้แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
ประเภทของกฐิน
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้ ดังนี้
1 .
กฐินหลวง
มีประวัติว่าเมื่อพระพุทธศาสนาได้แพร่หลายมาประดิษฐานในประเทศไทย
และประชาชนชาวไทยได้นับถือพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
การทอดกฐินก็ได้กลายเป็นประเพณีของบ้านเมืองมาโดยลำดับ
และพระเจ้าแผ่นดินผู้ปกครองบ้านเมืองก็ได้ทรงรับเรื่องกฐินเป็นพระราชพิธีอย่างหนึ่ง
การที่พระเจ้าแผ่นดินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเกี่ยวกับกฐินเป็นพระราชพิธีดังกล่าว
เป็นเหตุให้เรียกกันว่า
กฐินหลวง ดังนั้น
วัดใดก็ตามไม่ว่าวัดหลวงหรือวัดราษฎร์ที่พระเจ้าแผ่นดินเสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายผ้าพระกฐินแล้ว
ก็เรียกว่า กฐินหลวงทั้งสิ้น
แต่สมัยต่อมากฐินหลวงได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะการณ์ของบ้านเมือง
เช่น
ประชาชนมีศรัทธาเจริญรอยตามพระราชศรัทธาของพระเจ้าแผ่นดินและได้รับพระกรุณาให้ถวายผ้าพระกฐินตามควรแก่ฐานะ
กฐินหลวงปัจจุบันจึงได้แบ่งออกเป็นประเภทต่าง
ๆ ดังนี้
1.1 กฐินที่กำหนดเป็นพระราชพิธี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินด้วยพระองค์เอง
หรือ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้พระบรมวงศานุวงศ์หรือองคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ไปถวายเป็นประจำ
ณ วัดสำคัญ ๆ ปัจจุบันมี 16 วัด เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
วัดสุทัศน์เทพวราราม
วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นต้น
1.2 กฐินต้น หมายถึง
กฐินที่พระเจ้าแผ่นดินเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน
ณ
วัดที่มิใช่วัดหลวงและมิได้เสด็จไปอย่างเป็นทางการหรืออย่างเป็นพระราชพิธีแต่เป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลส่วนพระองค์
1.3 กฐินพระราชทาน
เป็นกฐินที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานผ้าของหลวงแก่ผู้ที่กราบบังคมทูลขอพระราชทานไปถวายยังวัดหลวง
ที่นอกเหนือไปจากวัดสำคัญ
16 วัดที่กำหนดไว้ เหตุที่มี
กฐินพระราชทาน
ก็เพราะปัจจุบันวัดหลวงมีจำนวนมาก
จึงเปิดโอกาสให้กระทรวง
ทบวง กรมต่าง ๆ ตลอดจนคณะบุคคลต่าง
ๆ ที่สมควรขอพระราชทานผ้าพระกฐินไปถวายได้
ซึ่งกฐินดังกล่าวส่วนใหญ่ก็คือกฐินที่หน่วยงานราชการต่าง
ๆ นำไปถวายนั่นเอง ทั้งนี้
ผู้ที่จะรับพระราชทานผ้ากฐินไปถวาย
ณ วัดหลวงวัดใดต้องติดต่อไปยังกรมการศาสนา
กระทรวงวัฒนธรรม
ตามระเบียบเพื่อเป็นการจองไว้ก่อนด้วย
2 .
กฐินราษฎร์ หมายถึง
กฐินที่ราษฎรหรือประชาชนผู้มีศรัทธานำผ้ากฐินของตนไปถวายตามวัดต่าง
ๆ ยกเว้นวัดหลวง 16 วัดที่กล่าวไว้แล้ว
ซึ่งจะมีชื่อเรียกต่าง ๆ
ตามลักษณะของการทอด ดังนี้
2.1 กฐินหรือมหากฐิน
เป็นกฐินที่ราษฎรนำไปทอด
ณ วัดใดวัดหนึ่งที่ตนศรัทธาเป็นการเฉพาะ
ผ้าที่เป็นองค์กฐินจะเป็นผืนเดียวหรือหลายผืนก็ได้
จะเย็บแล้วหรือไม่ก็ได้
แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นผ้าสำเร็จรูปแล้ว
และนิยมถวายของอื่น ๆ
ที่เรียกว่า บริวารกฐิน
ไปพร้อมกับองค์กฐินด้วย
เช่น เครื่องอุปโภคบริโภคของพระภิกษุสงฆ์
อย่างหมอน โอ่งน้ำ เตา ไม้กวาด
จอบ เสียบ อาหาร ยาต่าง ๆ
เป็นต้น
2.2 จุลกฐิน เป็นกฐินที่ต้องทำด้วยความรีบเร่ง
เดิมเรียกแบบไทย ๆ ว่า กฐินแล่น
เจ้าภาพที่จะทอดกฐินเช่นนี้ได้ต้องมีพวกและกำลังมาก
เพราะต้องเริ่มตั้งแต่ปั่นฝ้ายเป็นด้าย
ทอด้ายให้เป็นผ้า
ตัดผ้าและเย็บผ้าเป็นจีวร
ย้อมสี และต้องทอดภายในวันนั้น
และพระสงฆ์ก็ต้องกรานและอนุโมทนาในวันนั้น
ๆ ด้วย
เรียกว่าเป็นกฐินที่ต้องทำทุกอย่างให้เสร็จภายในวันเดียว
2.3 กฐินสามัคคี
เป็นกฐินที่มีเจ้าภาพหลายคนร่วมกัน
ไม่จำเป็นว่าใครบริจาคมากน้อย
แต่มักตั้งเป็นคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการและมีหนังสือบอกบุญไปยังผู้อื่น
เมื่อได้ปัจจัยมาเท่าไรก็จัดผ้าอันเป็นองค์กฐินรวมทั้ง
บริวารไปทอด
ณ วัดใดวัดหนึ่งที่จองไว้
ซึ่งกฐินชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
เพราะนอกจากทำบุญกฐินแล้ว
ยังนำปัจจัยที่เหลือไปช่วยทำนุบำรุงวัด
เช่น ก่อสร้างศาสนสถาน
บูรณะปฎิสังขรณ์โบสถ์ เจดีย์
เป็นต้น
2.4 กฐินตกค้าง หรือ กฐินโจร กล่าวคือในท้องถิ่นที่มีวัดมาก ๆ อาจจะมีวัดตกค้างไม่มีใครไปทอด จึงมีผู้มีจิตศรัทธาเสาะหาวัดอย่างนี้ แล้วนำกฐินไปทอด ซึ่งมักจะเป็นวันใกล้สิ้นเทศกาลกฐินหรือวันสุดท้าย จึงเรียกว่า กฐินตกค้าง หรืออาจเรียกว่า กฐินโจร เพราะกิริยาอาการ ที่ไปทอดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวจู่ ๆ ก็ไปทอด ไม่บอกกล่าวล่วงหน้าให้วัดรู้เพื่อเตรียมตัวคล้ายโจรบุก ซึ่งกฐินแบบนี้ต่างกับกฐินอื่นคือ ไม่มีการจองล่วงหน้า และจะทอดเฉพาะวัดที่ยังไม่มีใครทอด จะทอดหลายวัดก็ได้ และสามารถเอาของไทยธรรมที่เหลือจากวัดที่ไม่ได้ทอด ( กรณีไปหลายวัด ) ไปจัดเป็นผ้าป่า เรียกว่า " ผ้าป่าแถมกฐิน " ก็ได้
อานิสงส์หรือผลดีของการทอดกฐิน
การทอดกฐินถือเป็นการทำบุญพิเศษที่ทำได้เพียงปีละครั้ง และต้องอยู่ภายในกำหนดเวลาหนึ่งเดือนตามพุทธบัญญัติ ดังนั้น อานิสงส์ หรือผลดีจึงมีหลายประการ กล่าวคือ ได้สงเคราะห์พระสงฆ์ผู้จำพรรษาให้ได้ผ้านุ่งห่มใหม่ ได้ชื่อว่าทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างกุศลจิตแก่ผู้ทำบุญเพราะทำด้วยความเลื่อมใสศรัทธา อีกทั้งการทอดกฐินยังก่อให้เกิดความสามัคคี เป็นการร่วมมือกันทำคุณงามความดี และหากการถวายกฐินนั้นมีส่วนในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม ก็จะได้ชื่อว่ามีส่วนช่วยรักษาศาสนสถานและศาสนวัตถุให้ยั่งยืนต่อไป
2.4 กฐินตกค้าง หรือ กฐินโจร กล่าวคือในท้องถิ่นที่มีวัดมาก ๆ อาจจะมีวัดตกค้างไม่มีใครไปทอด จึงมีผู้มีจิตศรัทธาเสาะหาวัดอย่างนี้ แล้วนำกฐินไปทอด ซึ่งมักจะเป็นวันใกล้สิ้นเทศกาลกฐินหรือวันสุดท้าย จึงเรียกว่า กฐินตกค้าง หรืออาจเรียกว่า กฐินโจร เพราะกิริยาอาการ ที่ไปทอดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวจู่ ๆ ก็ไปทอด ไม่บอกกล่าวล่วงหน้าให้วัดรู้เพื่อเตรียมตัวคล้ายโจรบุก ซึ่งกฐินแบบนี้ต่างกับกฐินอื่นคือ ไม่มีการจองล่วงหน้า และจะทอดเฉพาะวัดที่ยังไม่มีใครทอด จะทอดหลายวัดก็ได้ และสามารถเอาของไทยธรรมที่เหลือจากวัดที่ไม่ได้ทอด ( กรณีไปหลายวัด ) ไปจัดเป็นผ้าป่า เรียกว่า " ผ้าป่าแถมกฐิน " ก็ได้
อานิสงส์หรือผลดีของการทอดกฐิน
การทอดกฐินถือเป็นการทำบุญพิเศษที่ทำได้เพียงปีละครั้ง และต้องอยู่ภายในกำหนดเวลาหนึ่งเดือนตามพุทธบัญญัติ ดังนั้น อานิสงส์ หรือผลดีจึงมีหลายประการ กล่าวคือ ได้สงเคราะห์พระสงฆ์ผู้จำพรรษาให้ได้ผ้านุ่งห่มใหม่ ได้ชื่อว่าทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างกุศลจิตแก่ผู้ทำบุญเพราะทำด้วยความเลื่อมใสศรัทธา อีกทั้งการทอดกฐินยังก่อให้เกิดความสามัคคี เป็นการร่วมมือกันทำคุณงามความดี และหากการถวายกฐินนั้นมีส่วนในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม ก็จะได้ชื่อว่ามีส่วนช่วยรักษาศาสนสถานและศาสนวัตถุให้ยั่งยืนต่อไป
แห่ลงที่มา
http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=454
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น